
หยุดยาวทั้งที นอนตี 2 ตื่นเที่ยงซะเลย จะได้พักเต็มที่!!
แต่! พอมาทำงาน ดันตื่นไม่ค่อยไหว ไม่จอย หงอยเวอร์
เพราะนาฬิกาชีวิตที่ผิดเพี้ยน แย่กว่าการนอนไม่เพียงพออีก!
ตามประวัติศาสตร์ มนุษย์ส่วนใหญ่ตื่นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น
นอนเมื่อเห็นดาว สัญญาณจากสิ่งแวดล้อม เช่น แสง อุณหภูมิ
จะประสานนาฬิการ่างกาย กับวัฏจักรกลางวัน-กลางคืน
แต่ปัจจุบัน เรามักใช้เวลาอยู่ในบ้านมากกว่าอยู่นอกบ้าน
ปรับแสง อุณหภูมิให้สบายตัว โดยไม่อิงกับสภาพธรรมชาติ
เดวิด แซมสัน นักมานุษยวิทยาจากมหาวิทยาลัยโตรอนโต
กล่าวว่า “นาฬิกาชีวภาพคือข้อมูล ร่างกายเราคือที่เก็บข้อมูล
ถ้าเราปิดกั้นข้อมูลเอาไว้ ระบบในร่างกายจะไม่ทำงาน”
นาฬิกาชีวภาพที่ไม่ตรง จะไปขัดขวางการหลั่งฮอร์โมน
และกระบวนการของร่างกาย อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า
มะเร็ง โรคหัวใจ การอักเสบต่าง ๆ
เวลาที่เราเริ่มนอน อาจเป็นปัญหามากกว่าจำนวนชั่วโมง
จากงานวิจัยทั้ง 54 งาน ช่วงปี 1967 ถึง 2022 วิเคราะห์ผู้คน
มากกว่า 5,100 คนจาก 21 ประเทศ พบว่า ประชากรในโลก
ที่เต็มไปด้วยอุตสาหกรรม นอนหลับเฉลี่ยคืนละ 7.1 ชั่วโมง
ส่วนรายงานใน Proceedings of the Royal Society B
ประชากรที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ นอนหลับเฉลี่ยคืนละ 6.4 ชั่วโมง
แม้จำนวนชั่วโมงการนอนเฉลี่ยจะเพียงพอ
แต่มีแนวโน้มว่าการนอน ไม่ตรงกับนาฬิกาชีวภาพของเรา
กลุ่มประชากรในเมืองที่มีเต็มไปด้วยอุตสาหกรรม
ใช้ชีวิตสอดคล้องกับดวงอาทิตย์มากกว่าในฝั่งอุตสาหกรรม
เป็นที่แน่ชัดว่า เมื่อชุมชนมีไฟฟ้าใช้ ผู้คนจะเริ่มนอนน้อยลง
และนอนดึกขึ้นกว่าเดิม แถมยังต้องตื่นเช้าไปทำงาน
เดอ ลา อิเกลเซีย กล่าวว่า การปรับตัวกับวิถีชีวิตปัจจุบัน
สังคมต้องยืดหยุ่น กับเวลาเริ่มต้นการทำงานหรือการเรียน
เช่น คนเข้านอนตีหนึ่ง สามารถนอนครบแปดชั่วโมงได้
บางครั้งเรารู้สึกไม่สบายใจ ทั้งที่นอนหลับเต็มอิ่มตลอดคืน
ดังนั้น การทำให้นาฬิกาชีวภาพทำงานตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญ
เช่น ทำให้พื้นที่ภายในอาคาร คล้ายกับพื้นที่กลางแจ้งมากขึ้น
ตั้งอุณหภูมิให้บ้านให้เย็นในตอนกลางคืน อุ่นขึ้นตอนกลางวัน
ติดตั้งไฟที่สว่างตอนเช้า และหรี่ลงเป็นสีแดงเมื่ออาทิตย์ตก
ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เวลา Juana Lamote
จาก University College London กล่าวว่า
แสงสีฟ้าจากหน้าจอ ก็ส่งผลกระทบต่อการนอนด้วย
การไถมือถือบนเตียง อาจทำให้คุณนอนไม่หลับนั่นเอง
เขียนบทความ : Sujata Gupta จาก www.sciencenews.org